โคมไฟไฮเบย์กับโคมไฟโรงงานต่างกันไหม?
หลายคนที่กำลังปรับปรุงโรงงาน คลังสินค้า หรือพื้นที่ผลิต มักตั้งคำถามว่า “โคมไฟไฮเบย์กับโคมไฟโรงงานต่างกันไหม?”, “ควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับพื้นที่?”คำถามเหล่านี้สำคัญมาก เพราะการเลือกโคมไฟที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้แสงไม่ครอบคลุม เกิดเงามืด และทำให้ต้นทุนพลังงานสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
ในบทความนี้ เราจะพาไปดูความแตกต่างของ โคมไฟไฮเบย์ (High Bay LED) กับ โคมไฟโรงงานแบบทั่วไป ว่าใช้งานต่างกันอย่างไร
1. โคมไฟไฮเบย์ vs โคมไฟโรงงาน ต่างกันอย่างไร?
แม้ทั้งสองแบบจะใช้ในอาคารอุตสาหกรรมเหมือนกัน แต่การออกแบบโครงสร้างและลักษณะการกระจายแสงต่างกันมาก ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยตรง
ความสูงในการติดตั้ง
- โคมไฟไฮเบย์ (High Bay LED):
ออกแบบมาสำหรับเพดานสูง 6 เมตรขึ้นไป หรือสูงได้ถึง 12–20 เมตร - โคมไฟโรงงานทั่วไป:
เหมาะกับพื้นที่เพดานต่ำกว่า 6 เมตร
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมบางโรงงานติดไฟแล้วรู้สึกแสงไม่ลงถึงพื้น? เพราะอาจใช้ไฟไม่ตรงประเภทนั่นเองการกระจายแสง (Beam Angle)
- โคมไฟไฮเบย์: ให้ลำแสงแบบ แคบและพุ่งลึก (60° / 90°) ช่วยให้แสงลงพื้นได้ตรงและคม
- โคมไฟโรงงานทั่วไป: แสงกว้างกว่าแบบ Floodlight แต่ไม่ลงลึกเท่าไฮเบย์
ดังนั้น ถ้าคลังสินค้าสูงมาก เช่น 10–14 เมตร การใช้โคมไฟโรงงานทั่วไปจะทำให้พื้นมืดและแสงฟุ้ง
เทคโนโลยี
- โคมไฟไฮเบย์: ใช้ LED 100% ในปี 2026 มีประสิทธิภาพสูงถึง 130–190 lm/W
- โคมไฟโรงงานเดิม: ยังพบแบบ Metal Halide, Fluorescent ซึ่งกินไฟและให้ความร้อนมากกว่า
รูปทรง
- โคมไฟไฮเบย์: ทรง UFO, ทรงสี่เหลี่ยม พร้อมฮีทซิงค์ระบายความร้อน
- โคมไฟโรงงานทั่วไป: มักเป็นทรงยาว (Batten) หรือทรงกระบอก
2. ทำไมปี 2026 โรงงานนิยมใช้โคมไฟไฮเบย์ LED มากที่สุด?
หลายโรงงานทั่วไทยกำลังเปลี่ยนจากไฟเดิมมาเป็น โคมไฟไฮเบย์ LED แล้ว เพราะให้ประโยชน์ดังนี้:ประหยัดพลังงานสูงสุด (สูงกว่า 70%)
ด้วยประสิทธิภาพแสงสูงของโคมไฟไฮเบย์ ทำให้ได้ความสว่างมากขึ้นแต่กินไฟน้อยกว่าเหมาะสำหรับโรงงานที่เปิดไฟ 12–24 ชั่วโมงต่อวัน
อายุการใช้งานยาวนานกว่า 50,000 ชั่วโมง
ช่วยลดค่า Maintenance โดยเฉพาะในโรงงานเพดานสูงที่ “ต้องใช้ลิฟต์ยกหรือรถเครนเพื่อซ่อมไฟ” ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง
มาตรฐานป้องกันฝุ่นน้ำสูง (IP65, IP66)
เหมาะกับโรงงานอาหาร โรงงานผลิตเหล็ก หรือพื้นที่ที่มีฝุ่นและความชื้นแถมบางรุ่นยังรองรับแรงดันน้ำล้างได้อีกด้วย
3. หลักเกณฑ์การเลือกโคมไฟไฮเบย์ที่เหมาะสม
- กำลังไฟ (Wattage): ใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆ: หากความสูงเพดานอยู่ที่ 6-8 เมตร ควรใช้กำลังไฟ 100W-150W หากสูงกว่า 10 เมตร ควรใช้ 200W-240W ขึ้นไป เพื่อให้ได้ค่าความสว่าง (Lux) ตามมาตรฐาน มอก.
- ค่า CRI (Color Rendering Index): สำหรับไลน์ผลิตหรือพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ควรเลือกโคมไฟที่มีค่า CRI > 80 เพื่อให้เห็นสีที่ถูกต้องแม่นยำ.
- ความทนทาน (IK Rating): หากติดตั้งในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อแรงกระแทกจากอุปกรณ์ยกหรือเครน ควรพิจารณาค่า IK (Impact Protection) เช่น IK08 เป็นอย่างน้อย
สรุป: โคมไฟไฮเบย์คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับโรงงานยุคใหม่
หากถามว่า โคมไฟไฮเบย์กับโคมไฟโรงงานต่างกันไหม?
คำตอบคือ ต่างแบบมีนัยสำคัญ เพราะโคมไฟไฮเบย์ถูกออกแบบมาสำหรับเพดานสูงโดยเฉพาะ
ทั้งการกระจายแสง ลำแสงพุ่งลึก ความทนทาน สำหรับปี 2026 โรงงานเกือบทั้งหมดหันมาใช้ โคมไฟไฮเบย์ LED เพราะเหมาะกับงานหนัก ประหยัดไฟสูง และให้ความสว่างที่สม่ำเสมอช่วยทำให้การผลิตมีคุณภาพมากขึ้น ลดต้นทุนระยะยาวได้จริง
เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญในทุกพื้นที่ของชีวิต RICHEST SUPPLY ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์แสงสว่างที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟถนน โคมไฮเบย์ สปอร์ตไลท์ หลอดไฟ LED โซล่าเซลล์ และเสาไฟ สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมที่ LINE Official Account: @richestsupply หรือ Facebook: https://www.facebook.com/enrichled


